"http://comment-thai.com/pimp_glitter_15748.html"

“ เมื่อไหร่ …หนูจะได้กลับบ้าน ”

ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)

Teachings of Buddha Product by manoon Chongwattananukul

Bookmark and Share
Bookmark and Share

วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เรื่องของ ′ชา′ กับสุขภาพ




วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 08:19:27 น.  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เรื่องของ ′ชา′ กับสุขภาพ

เราดื่มชากันติดปากไม่ต่างจากการดื่มกาแฟ

และมีข้อมูลที่ยืนยันว่าคนเรามีการดื่มชากันมากว่า 5 พันปีแล้ว

ปัจจุบัน ชาที่เราดื่ม ๆ กัน มีหลายประเภท ทั้งชาแท้ ชาเขียว ชาขาว ชาดำ ชาแดง หรือ ชาอู่หลง

′ศัลยา คงสมบูรณ์เวช′ ผู้เชี่ยวชาวด้านโภชนาบำบัดให้ความรู้เรื่องของชา ๆ ไว้อย่างน่าสนใจในหนังสือ ′อาหารต้านวัยต้านโรค′

 

เธอ ว่าชาทุกชนิดที่กล่าวมามีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์สูงในรูปพอลิฟีนอล ประกอบไปด้วยสารฟลาโวนอยด์หลายชนิด ซึ่งเป็นคุณในการป้องกันโรคได้หลายโรค

 

อันดับแรกเลยเป็นข้อมูลที่พบกันมาก นักวิจัยแนะนำการดื่มชาวันละ 1-5 ถ้วย เพื่อลดโรคหัวใจหรือป้องกันหัวใจวาย

 

นักวิจัยชาวเนเธอร์แลนด์พบว่า ผู้ที่กินสารฟลาโวนอยด์มากที่สุด มีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง 68% อาหารที่มีสารฟลาโวนอยด์มากที่สุดคือชาดำ รองลงมาคือหัวหอมและ แอปเปิล

 

รายงาน การวิจัยจากองค์การอาหารและเกษตรของสหรัฐอเมริกาพบว่า การดื่มชาดำวันละ 5 ถ้วย ช่วยลดแอลดีแอล (คอเลสเตอรอลไม่ดี) ได้ถึง 11.1% และลดคอเลสเตอรอลรวม 6.5% ในกลุ่มชายและหญิงที่มีคอเลสเตอรอลสูงขึ้นไม่มาก งานวิจัยในบอสตันพบว่า ผู้ที่ดื่มชาดำวันละถ้วย ลดความเสี่ยงหัวใจวาย 44% เทียบกับผู้ที่ไม่ดื่ม

แต่จากการวิเคราะห์งานวิจัย 17 ผลงานพบว่า ผลของการ   ดื่มชามีทั้งผลบวกและลบคละกันไป เพราะการวิจัยที่ทำใน North Carolina School of Public Health กลับพบว่า การดื่มชาเพิ่มความเสี่ยงหัวใจวายและเส้นเลือดสมองตีบ

 

ซึ่งก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 2006 องค์การอาหารและยา ของสหรัฐอเมริกาก็ได้ประกาศไม่อนุญาตข้ออ้างว่า ชาเขียวช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าชาเขียวไม่มีประโยชน์ เพียงแต่ยังไม่มีข้อมูลการวิจัยพิสูจน์ให้เห็นชัดเจน

 

แม้ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า สารฟลาโวนอยด์ในชาอาจช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง แต่ข้อมูลไม่มากเท่ากับชาป้องกันโรคหัวใจ ปัจจุบัน  การวิจัยด้านคลินิกกำลังดำเนินอยู่เพื่อพิสูจน์ว่าชาจะป้องกันมะเร็งได้มากน้อยเพียงใด

 

ชาเขียวมีสารคาเทชินชนิด EGCG สูง กว่าชาดำมาก ซึ่งให้ประโยชน์ต่อการลดน้ำหนัก และอาจเพิ่มระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายนอกเหนือจากสารกาเฟอีน โดยยับยั้งเอนไซม์ที่สลาย สารนอร์อีพิเนฟฟรีน ซึ่งเป็นสารสื่อข่าวในสมองที่เร่งระบบเผาผลาญของร่างกายและไขมัน งานวิจัยพบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำเป็นเวลา 10 ปีขึ้นไป มีไขมันในร่างกายลดลง 20% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ดื่มชาเป็นประจำ

 

และ นักวิจัยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์พบว่า สารคาเทชินในชาเขียวช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญได้วันละ 78 แคลอรี ในทางทฤษฎีอาจช่วยให้ลดน้ำหนักได้ปีละ 4 กิโลกรัม แม้จะไม่มากแต่ก็เป็นเหตุผลที่ดีที่จะแนะนำให้ดื่มชาวันละ 2 ถ้วย ชาดำจะให้ผลเช่นเดียวกันหรือไม่ ยังไม่มีคำตอบชัดเจนในขณะนี้

 

ยังมีการวิจัยพบว่า สารธรรมชาติในชามีผลในการเพิ่มความไวต่ออินซูลินในเซลล์ไขมันถึง 150 เท่า การดื่มชาอู่หลงวันละ 6 ถ้วย ช่วยลดความดันน้ำตาลในเลือดได้ ชาอู่หลงจึงอาจมีผลในการเสริมฤทธิ์ยารักษาเบาหวานชนิดที่ 2 ได้

 

และสารฟลาโวนอยด์ในชามีผลในการยับยั้งแบคทีเรียในช่องปากลดการเกิดฟันผุได้ด้วย

งานวิจัยเหล่านี้ทำให้พอมองเห็นว่าการดื่มชาก็มีคุณต่อร่างกายไม่น้อย

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1267174034&grpid=07&catid=no&sectionid=0225



--
โปรดอ่านบล็อก
http://www.pridiinstitute.com
http://www.nakkhaothai.com
http://apps.facebook.com/blognetworks/index.php
http://www.roundfinger.com/
http://twitter.com/sweetblog
http://twitter.com/oknewsblog
http://twitter.com/okblogger
http://twitter.com/sat191
http://www.pacc.go.th/
http://twitter.com/okblogchan
http://twitter.com/sun1951
http://twitter.com/smeblogger
http://twitter.com/seminarblog
http://twitter.com/sunnewsblog
http://twitter.com/okworldblog
http://twitter.com/ktblogger
http://twitter.com/sundayblog
http://twitter.com/mondayblog
http://twitter.com/tuesdayblog
http://twitter.com/wednesdayblog
http://twitter.com/thursdayblog
http://twitter.com/fridayblog
http://twitter.com/saturdayblog
http://www.deepsouthwatch.org/node/687

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น